
เมื่อวานนี้ช่วงค่ำ (เสาร์ 29 กุมภาพันธ์) สถาบันสุขภาพแห่งชาตินอร์เวย์ (Folkehelseinstituttet) ยืนยันผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในนอร์เวย์ รวมทั้งสิ้น 15 ราย โดยวานนี้ตรวจเจอผู้ติดเชื้อเพิ่ม 8 ราย
4 รายตรวจเจอที่เมืองเบอร์เก้น (Bergen) ทางฝั่งตะวันตกของนอร์เวย์
3 รายเป็นบุคลากรที่ทำงานในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยออสโล
และวันนี้ (อาทิตย์ 1 มีนาคมช่วงเช้า) โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยออสโลออกมายืนยันผลตรวจเพิ่มทางทวิตเตอร์ว่า เจอผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 2 ราย ซึ่งมีความเกี่ยวข้องแผนกจักษุของโรงพยาบาลฯ
สรุปจำนวนผู้ติดเชื้อที่ตรวจเจอทั้งหมดในตอนนี้ 17 ราย กระจายหลายภูมิภาค ทั้งทางเหนือ เมืองหลวง และฝั่งตะวันตก
ในจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด 17 ราย มี 5 ราย ที่มีประวัติเกี่ยวข้องกับแผนกจักษุของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยออสโล ต้นตอผู้ติดเชื้อคนแรกของโรงพยาบาลฯ เป็นจักษุแพทย์ที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากการพักผ่อนทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี
โดยแพทย์คนดังกล่าว ได้ร้องขอการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทันทีที่รู้สึกผิดปกติทางร่างกาย หลังกลับมาจากอิตาลี แต่ทางโรงพยาบาลแจ้งว่า ไม่น่าจะจำเป็นต้องตรวจ และขอให้มาทำงานตามปกติ ภายหลังทางโรงพยาบาลฯ ได้ออกมายอมรับว่าเป็น “การตัดสินใจที่ผิดพลาด” และได้ตามหาบุคคลที่อาจมีปฏิสัมพันธ์หรือเกี่ยวข้องกับแพทย์คนดังกล่าวเพิ่มเติม มีการตรวจหาเชื้อในบุคลากรในโรงพยาบาลฯ 28 คน ที่ออกอาการแล้ว และมีบุคลกรหลายคนถูกกักบริเวณรอดูอาการ ระยะ 14 วันแล้ว
หลังจากมีการยืนยันผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ข่าวสารเรื่องการปฏิบัติตัวพรั่งพรูหลั่งไหล รวมถึงเกิดความตื่นตระหนกเรื่องไวรัสโควิด-19 ในหมู่ประชาชน เริ่มมีการหาซื้อหน้ากากมาป้องกันมากขึ้น
แต่อย่างไรก็ดี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาของนอร์เวย์ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวช่อง nrk ว่า ถ้าไม่ป่วยไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากาก แค่ล้างมือให้สะอาดอย่างถูกวิธีบ่อยๆ ก็เพียงพอต่อการป้องกันตัวเองจากไวรัสแล้ว การใส่หน้ากากโดยที่ไม่ป่วยจะทำให้เพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อเข้าไปอีก เพราะอาจมีการสัมผัสบริเวณใบหน้าบ่อยๆ จากการขยับหน้ากากและถอดเข้าถอดออก
ที่มาข่าว :
ข้อมูลอัพเดทจากเว็บสถาบันสุขภาพแห่งชาติ – https://bit.ly/32FN20m
ข่าวจาก nrk – https://bit.ly/2PAqDfJ
ข่าวจาก tv2 – https://bit.ly/2VATZ1k
โพสต์แนะนำ อาหารอินโดนีเซียในอัมสเตอร์ดัม
103 total views