เวลาคนไทยแวะปั๊มน้ำมันก็จะซื้อของกินติดไม้ติดมือ ไว้กินระหว่างเดินทางด้วยใช่ไหมคะ
บางคนอาจซื้อบะหมี่ถ้วยสำเร็จรูป ซดน้ำซุปกินร้อนๆ รสชาติจัดจ้าน หรือจัดเต็มเป็นข้าวกล่อง อาหารแช่แข็งสำเร็จรูป อบไมโครเวฟที่ร้านง่ายๆ ไม่กี่นาทีก็พร้อมรับประทาน
บางคนขอแบบของกินเล่นง่ายๆ สไตล์นานาชาติ เช่น ขนมปัง แซนด์วิช ซาลาเปา ขนมจีบ ไส้กรอก แถมด้วยเครื่องดื่มอย่างกาแฟเย็น น้ำอัดลม หรือจะเป็นขนมขบเคี้ยวมันฝรั่งแผ่นทอดกรอบอะไรก็ว่ากันไป
ส่วนที่นอร์เวย์ของกินเล่นยอดฮิตของคนที่นี่ แบบซื้อง่ายๆ ขายคล่องๆ สั่งซื้อกับพนักงานที่แคชเชียร์ จ่ายเงิน พร้อมกินระหว่างเดินทางเลย ลูกค้าไม่ต้องรอนาน คือ ขนมปังก้อน (Bun ภาษาอังกฤษ, Bolle ภาษานอร์เวย์)
จากประสบการณ์ส่วนตัว ค้นพบว่ารสชาติของขนมปังก้อนตามร้านสะดวกซื้อในปั๊มน้ำมัน ก็จะงั้นๆ พอกินได้ ไม่ได้มีรสชาติโดดเด่น แบบกินแล้วร้องว้าว ต้องแวะมาซื้อกินบ่อยๆ อะไรขนาดนั้น ทั้งนี้ เพราะส่วนใหญ่เป็นขนมปังแบบผลิตจำนวนมาก (Mass production) กึ่งสำเร็จรูป ส่งตามเฟรนไชส์ของปั๊มน้ำมัน รสชาติเหมือนๆ กันหมด มีไม่กี่รส เช่น แบบไม่มีไส้ มีไส้ลูกเกด ช็อคโกแลต ซินนามอน ทางร้านแค่เอามาอบ แล้วก็วางขายได้เลย
Espa Bolleland
ร้านสะดวกซื้อในปั๊มน้ำมันที่ตั้งเป้าขายขนมปังปีละมากกว่าล้านชิ้น
ปกติปั๊มน้ำมันเชลล์ก็จะมีร้านสะดวกซื้อที่เป็นเฟรนไชส์ของเชลล์ ขายของกินและสินค้าจิปาถะสำหรับคนเดินทาง พร้อมทั้งวางเลย์เอาท์ร้านเป็นรูปแบบเดียวกันทั้งประเทศ
แต่ที่นอร์เวย์มีปั๊มเชลล์อยู่ที่หนึ่งค่ะ ที่มีร้านสะดวกซื้อแปลกแตกต่างไปจากปั๊มน้ำมันที่อื่นๆ เป็นร้านที่มีรูปแบบเฉพาะใช้ธีมสีเหลืองโดดเด่น ไม่ใช่ร้านเฟรนไชส์เหมือนปั๊มน้ำมันเชลล์แห่งอื่นๆ ชื่อร้านว่า เอสปา บอลละลานด์ (Espa Bolleland) ตั้งอยู่ในเทศมณฑลอินลานเดอะ (Innlandet) ริมถนนหลวง E6 ติดกับทะเลสาบมะเยอซ่า (Mjøsa) ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในนอร์เวย์
จุดเด่นของร้านที่เป็นจุดขายคือ ขนมปังก้อน โดยร้านเขาโฆษณาว่าเป็นขนมปังที่อร่อยที่สุดที่ขายในปั๊มน้ำมันในนอร์เวย์ มีรสชาติให้เลือกหลากหลาย เช่น ขนมปังช็อคโกแลต ขนมปังลูกเกด ขนมปังครีมวนิลา ขนมปังอบเชย ฯลฯ อบกันสดๆ ในร้าน
สูตรขนมปังคิดค้นโดยบริษัทอบขนมปังชื่อ Bakehuset ช่วงทศวรรษปี 90 เคล็ดลับคือใช้ยีสต์ที่ต้องหมักให้ขนมปังฟูนานหลายชั่วโมง ปัจจุบัน ขนมปังสั่งทำจากโรงงานเบเกอรี่ที่ Økern ส่งตรงถึงร้านและอบใหม่ๆ สดๆ ที่ร้านทุกวัน ใช้เคล็ดลับเดิมคือ ยีสต์ที่หมักนานหลายชั่วโมงให้ขนมปังนุ่มฟู
ปัจจุบัน เจ้าของร้านตั้งเป้าขายขนมปังปีละมากกว่าล้านชิ้น เขาบอกว่าถ้าย้อนกลับไปตอนเริ่มกิจการปั๊มน้ำมันใหม่ๆ ในปี 1998 ไม่เคยคิดว่าจะขายขนมปังได้เยอะกว่ายอดขายน้ำมัน ซึ่งเป็นกิจการหลักในตอนก่อตั้ง
ที่มาของความดัง
ปั๊มน้ำมันที่เอสปาแห่งนี้ เริ่มกิจการเมื่อปี 1994 โดยช่วงทศวรรษปี 90 ของกินหลักที่เป็นจุดขายคือ ฮ็อทด็อกรสชาติแสนอร่อย เป็นที่ถูกปากลูกค้า แต่หลังปี ค.ศ. 2000 ทางร้านหันมาเน้นขายขนมปังก้อนมากขึ้น และขายดีมาเรื่อยๆ
จนปี 2006 รายการโทรทัศน์ระดับประเทศ ช่อง NRK (อารมณ์ BBC เวอร์ชั่นประเทศนอร์เวย์) นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับขนมปังยอดฮิตที่ปั๊มน้ำมันเอสปาแห่งนี้ หลังรายการเผยแพร่ออกไป ยอดขายขนมปังก็ถล่มทลาย พุ่งขึ้นเกือบ 100%
จากนั้นมาก็มีสื่อนำเสนอเรื่องราวขนมปังที่ปั๊มน้ำมันเอสปาเรื่อยๆ ความนิยมก็พุ่งขึ้นเรื่อยๆ ภายหลังจึงได้เปลี่ยนชื่อร้านเป็น Espa Bolleland ตามความนิยมของขนมปังและเน้นย้ำจุดขายให้ชัดเจนขึ้นไปอีก (Espa คือชื่อสถานที่ตั้งของปั๊มน้ำมัน Bolle ภาษานอร์เวย์แปลว่าขนมปังก้อน)
ปี 2019 ที่ผ่านมา เอสปาบอลเลอร์ขายขนมปังได้มากกว่า 1.7 ล้านชิ้น ขณะที่ปี 2020 ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 1.8 ล้านชิ้น ร้านบอกว่าสถิติอบขนมปังคือ กว่า 1,500 ชิ้นต่อชั่วโมง
เมื่อสื่อถามถึงเคล็ดลับความสำเร็จของร้าน เจ้าของร้านบอกว่า ร้านมีสินค้าเฉพาะที่เป็นจุดขาย ซึ่งก็คือขนมปัง และพัฒนาให้คุณภาพดีขึ้นเรื่อยๆ พอร้านติดลมบนแล้วก็ทำให้เป็นเทรนด์ ให้ลูกค้ารู้สึกมีประสบการณ์ร่วม ว่าร้านนี้มีความพิเศษจริง โดยร้านได้ออกผลิตภัณฑ์ที่ระลึกอื่นๆ ในแบรนด์ Espa Boller ด้วย เช่น เสื้อยืด เสื้อกันหนาว หมวก แก้วน้ำ ตุ๊กตา ฯลฯ
รีวิว Espa Bolleland
บรรยากาศร้าน
ตกแต่งภายนอกและภายในด้วยสีเหลืองโดดเด่น ป้ายชื่อร้าน Bolleland เป็นสง่า พนักงานใส่เสื้อยูนิฟอร์มสีเหลืองเด่น สกรีนคำว่า Espa Boller ซึ่งก็คือชื่อแบรนด์ขนมปังนั่นเอง เดินเข้าไปในร้านสัมผัสได้ถึงความคึกคักของการอบขนมปังหลังเคาน์เตอร์ พนักงานเดินกันขวักไขว่ กลิ่นหอมขนมปังลอยฟุ้ง ลูกค้ายืนรอต่อคิวแน่นขนัด แคชเชียร์จ่ายเงินมีถึง 3-4 ช่องด้วยกัน
แค่นาทีแรกที่เดินเข้าร้านไปก็รู้สึกตื่นเต้นแล้วค่ะ
ร้านมีความน่าสนใจ สมคำร่ำลือตามสื่อต่างๆ ที่เขาว่าไว้
เมนูอาหารและเครื่องดื่มติดอยู่บนผนังกับหน้าตู้ใส่ขนมปัง
ตัดสินใจเลือกกันให้ดีๆ ค่ะ ว่าอยากลองชิมรสไหน
ประสบการณ์ส่วนตัวเท่าที่ไปร้านขนมปังมาหรือแวะตามปั๊มน้ำมันในนอร์เวย์ ร้านนี้เด็ดสุดจริงค่ะ คือมีตัวเลือกรสชาติขนมปังเยอะดี เช่น ช็อคโกแลต ลูกเกด คาราเมล วนิลา อบเชย แครนเบอรี่ ฯลฯ
ราคาก้อนละ 17 โครน
ซื้อ 3 ก้อน ราคา 45 โครน
6 ก้อน ราคา 75 โครน
ซื้อ 100 ก้อน ราคา 699 โครน
ยิ่งซื้อเยอะราคายิ่งถูก
ตอนต่อคิวนี่รู้สึกกดดันนิดหน่อย เพราะมาครั้งแรก เลือกไม่ถูกว่าจะกินรสไหนดี จะซื้อกี่ก้อนดี แต่ก็ต้องรีบตัดสินใจ เพราะบรรยากาศการซื้อขายมันไปไวมาก จะมาอ้ำๆ อึ้งๆ ไม่ได้ เกรงใจคนอื่นที่เขาต่อคิวรอซื้ออยู่
รสชาติขนมปัง
วันนั้น เป็นช่วงระหว่างเดินทางท่องเที่ยว พอดีตื่นสายเลยไม่ได้กินบุฟเฟ่ต์อาหารเช้าที่โรงแรม เก็บท้องกะมากินที่นี่เลย สองคนสั่งซื้อมา 6 ก้อน มีไส้ช็อคโกแลต อบเชย ลูกเกด วนิลาครีม แล้วก็แบบผสมไส้
กัดไปคำแรก โอโห อย่างนิ่มค่ะ รสชาติอร่อยโดดเด่นกว่าขนมปังทั่วไปตามปั๊มน้ำมัน ขนมปังเพิ่งอบออกมาจากเตาใหม่ๆ ได้เห็นขั้นตอนเขาเอาออกจากเตา ค่อยๆ เรียงทีละชิ้น วางขายในตู้
อร่อยจริงไรจริงค่ะ
ถ้าเขามีเฟรนไชส์ขายทั่วประเทศ นี่อยากสั่งซื้อให้มากินที่บ้านมาก อารมณ์เหมือนเค้กบ้านสวน ที่แบบอร่อยนิ่มเป็นเอกลักษณ์ ต้องซื้อ หรือฝากใครซื้อสักคน เวลาไปเที่ยวอยุธยา
หลังจากที่กินไปสามก้อน แน่นๆ จุกๆ เลยค่ะ กินไปก้อนแรกมันหมดเร็วมาก ก้อนที่สองและก้อนที่สามตามมาเพราะอยากลองชิมรสอื่นๆ
จุดเด่นของขนมปังเอสปาคือ ขนมปังมีความนุ่ม รสชาติแปลกใหม่ ไม่เหมือนขนมปังที่อื่น ทำให้รู้สึกพิเศษ ประกอบกับกระแสที่เทรนด์ขนมปังร้านนี้ฮิตติดลมบนไปแล้ว อีกทั้งบรรยากาศในร้านและลูกค้าคนอื่นๆ ที่ต่างดูตื่นเต้นคึกคัก นั่งกินกันเอร็ดอร่อย รอบปั๊มน้ำมัน เห็นแล้วมันอร่อยไปล่วงหน้าก่อนจะได้ลองเสียอีก
กินกับกาแฟดำร้อนๆ นี่เหมาะมาก
ควรค่าแก่การเป็นขนมปังกินเล่นกับกาแฟระหว่างเดินทางอย่างแรง
ทำให้การเดินทางผ่านทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในนอร์เวย์มีกิมมิคน่าจดจำมากขึ้นไปอีก
ใครแวะผ่านมาแถวนี้ แนะนำว่าต้องลองค่ะ
